กลุ่มชุดดินที่
54 |
ชุดดินในกลุ่ม |
|
ชุดดินลำพญากลาง (Lg) ชุดดินลำนารายณ์
(Ln) และชุดดินสมอทอด (Sat)หรือดินคล้ายอื่นๆ ที่มีลักษณะและสมบัติจัดอยู่ในกลุ่มชุดดินนี้ |
ลักษณะเด่น |
กลุ่มดินลึกปานกลางถึงชั้นมาร์ลหรือก้อนปูน
ปฏิกิริยาดินเป็นด่าง การระบายน้ำดี ความอุดมสมบูรณ์ปานกลาง |
สมบัติของดิน |
เป็นกลุ่มชุดดินที่เกิดจากการสลายตัวผุพังอยู่กับที่
หรือจากการสลายตัวผุพังแล้วถูกเคลื่อนย้ายมาทับถมในระยะทางไม่ไกลนัก
ของวัตถุต้นกำเนิดดินที่เป็นพวกหินอัคนี เช่น บะซอลต์ แอนดีไซต์
พบบริเวณพื้นที่ดอน มีสภาพพื้นที่เป็นลูกคลื่นลอนลาดถึงลูกคลื่นลอนชัน
มักอยู่ใกล้กับบริเวณเทือกเขาหินปูน หรือหินภูเขาไฟ เป็นดินลึกปานกลาง
มีการระบายน้ำดีถึงดีปานกลาง เนื้อดินเป็นดินร่วนเหนียวหรือดินเหนียว
โดยปกติจะมีก้อนปูนหรือเศษหินที่กำลังผุพังสลายตัวปะปนอยู่ในเนื้อดินด้วย
ในชั้นดินล่างลึกๆ อาจพบชั้นปูนมาร์ล สีดินเป็นสีเทาเข้มหรือสีน้ำตาลหรือน้ำตาลปนแดง
ชั้นดินล่างอาจมีจุดประสีเหลืองและสีแดง ปฏิกิริยาของดินส่วนใหญ่จะเป็นกรดเล็กน้อยถึงเป็นด่างจัด
|
|
|
อินทรียวัตถุ
(เปอร์เซ็นต์) |
ฟอสฟอรัส
(ส่วนต่อล้านส่วน) |
โพแทสเซียม
(ส่วนต่อล้านส่วน) |
ความเป็นกรดเป็นด่าง
(pH) |
ดินบน |
2.5 |
24.0 |
254.0 |
6.5-8.0 |
ดินล่าง |
2.0 |
18.1 |
217.3 |
7.0-8.5 |
*เปอร์เซ็นต์ค่าไนโตรเจน มีค่าเท่ากับ เปอร์เซ็นต์อินทรียวัตถุ x 0.05 |
ความอุดมสมบูรณ์
ตามธรรมชาติ |
ปานกลาง |
การใช้ประโยชน์ |
ใช้ปลูกพืชไร่ เช่น ข้าวโพด
ข้าวฟาง มันสำปะหลัง ปอ และถั่ว หรือปลูกไม้ผลบางชนิด |
ปัญหา |
ดินเป็นด่างจัดและมีชั้นปูนมาร์ลหรือก้อนปูนช่วงความลึก
100 ซม.เนื้อดินเหนียวจัด การไถพรวนต้องทำในช่วงที่ดินมีความชื้นพอเหมาะ
มิฉะนั้นจะทำให้ดินแน่นทึบ ในฤดูฝนจะมีน้ำแช่ขังง่าย ทำให้พืชชะงักการเจริญเติบโต
บริเวณที่พื้นที่มีความลาดชันสูงจะเกิดการชะล้างพังทลายของหน้าดิน |
ความเหมาะสมด้านการเกษตร |
พืช |
ชั้น
ความเหมาะสม |
คำอธิบาย |
ข้าว |
3d |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องการระบายน้ำของดิน |
อ้อยโรงงาน |
1 |
เหมาะสม |
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ |
1 |
เหมาะสม |
มันสำปะหลัง |
1 |
เหมาะสม |
สับปะรด |
2k |
ไม่ค่อยเหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความเป็นด่างของดิน |
ยางพารา |
2k |
ไม่ค่อยเหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความเป็นด่างของดิน |
ปาล์มน้ำมัน |
2k |
ไม่ค่อยเหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความเป็นด่างของดิน |
ลำไย |
1 |
เหมาะสม |
|
แนวทางการจัดการดิน
เพื่อการเพาะปลูก |
ปลูกพืชไร่
หรือพืชผัก |
เลือกชนิดพืชที่ชอบดินเป็นด่างมาปลูก
ไถพรวนดินในขณะที่ดินมีความชื้นที่เหมาะสม ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก
1-2 ตัน/ไร่ หรือไถกลบพืชปุ๋ยสด (หว่านเมล็ดถั่วพร้า
8-10 กิโลกรัม/ไร่ เมล็ดถั่วพุ่ม 6-8 กิโลกรัม/ไร่
หรือ ปอเทือง 4-6 กิโลกรัม/ไร่ ไถกลบระยะออกดอก ปล่อยไว้
1-2 สัปดาห์) ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
ไถพรวนและปลูกพืชขวางความลาดชัน ปลูกพืชเป็นแถบ ปลูกพืชคลุมดิน
การปลูกพืชปุ๋ยสด การปลูกพืชหมุนเวียน ทำคันดินร่วมกับปลูกหญ้าแฝก
ทำแนวรั้วหญ้าแฝก พัฒนาแหล่งน้ำและจัดระบบการให้น้ำในแปลงปลูก |
ปลูกไม้ผล |
ขุดหลุมปลูกขนาด 50x50x50
ซม. หรือถึงชั้นมาร์ล ปรับปรุงหลุมปลูกด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก
15-25 กิโลกรัม/หลุม มีระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ เช่น
ปลูกพืชคลุมดิน วัสดุคลุมดิน ทำแนวรั้วหรือทำฐานหญ้าแฝกเฉพาะต้น
ในช่วงเจริญเติบโต ก่อนเก็บผลผลิตและภายหลังเก็บผลผลิต
ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
ตามชนิดพืชที่ปลูก พัฒนาแหล่งน้ำและจัดระบบการให้น้ำในแปลงปลูก |
|
ความเหมาะสมของดิน
เพื่อใช้ประโยชน์ด้านวิศวกรรม |
ประเภทการใช้ |
ชั้นความเหมาะสม |
คำอธิบาย |
วัสดุหน้าดิน |
3s |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องเนื้อดิน |
แหล่งทรายและกรวด |
4a |
ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน |
ดินถมหรือดินคันทาง |
3a |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน |
เส้นทาง แนวถนน |
3a |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน |
บ่อขุด |
3k |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความซาบซึมน้ำของดิน |
อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก |
3k |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความซาบซึมน้ำของดิน |
คั้นกั้นน้ำ |
2a |
เหมาะสมปานกลางมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน |
ระบบบ่อเกรอะ |
2k |
เหมาะสมปานกลางมีข้อจำกัดเรื่องความซาบซึมน้ำของดิน |
โรงงานอุตสาหกรรม
ขนาดเล็ก |
2d |
เหมาะสมปานกลางมีข้อจำกัดเรื่องการระบายน้ำของดิน |
อาคารต่ำๆ |
2d |
เหมาะสมปานกลางมีข้อจำกัดเรื่องการระบายน้ำของดิน |
การใช้ยานพาหนะ
ในช่วงฤดูฝน |
3s |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องเนื้อดิน |
|
ปริมาณน้ำที่พืชใช้ประโยชน์ได้
(Available Water Capacity : AWC) |
มีค่าระหว่าง 16.39-22.05
เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก เฉลี่ย 20.15 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก
ภายในความลึก 120 เซนติเมตร จากผิวหน้าดิน
(หมายเหตุ ปริมาณน้ำที่พืชใช้ประโยชน์ได้ หมายถึงผลต่างของความชื้นความจุสนามมีค่าพลังงาน
-33 กิโลพาสคาล และความชื้นที่จุดเหี่ยวถาวรมีค่าพลังงาน
-1,500 กิโลพาสคาล) |