| กลุ่มชุดดินที่
52 |
| ชุดดินในกลุ่ม |
|
| ชุดดินบึงชะนัง (Bng) ชุดดินตาคลี
(Tk)หรือดินคล้ายอื่นๆ ที่มีลักษณะและสมบัติจัดอยู่ในกลุ่มชุดดินนี้ |
| ลักษณะเด่น |
กลุ่มดินตื้นถึงชั้นมาร์ลหรือก้อนปูน
ปฏิกิริยาดินเป็นด่าง การระบายน้ำดี ความอุดมสมบูรณ์ปานกลางถึงสูง |
| สมบัติของดิน |
เป็นกลุ่มชุดดินที่เกิดจากตะกอนลำน้ำ
ทับอยู่บนชั้นปูนมาร์ล พบบริเวณที่ลาดเชิงเขาหินปูน มีสภาพพื้นที่ค่อนข้างราบเรียบถึงเป็นลูกคลื่นลอนลาดเล็กน้อย
เป็นดินตื้นถึงตื้นมากถึงชั้นปูนมาร์ล มีการระบายน้ำดี เนื้อดินเป็นพวกดินเหนียว
ดินร่วนเหนียว หรือดินร่วนเหนียวปนทรายแป้ง ที่มีก้อนปูนหรือปูนมาร์ลปะปนอยู่มาก
สีดินเป็นสีดำ สีน้ำตาลหรือสีแดง ปฏิกิริยาดินเป็นกลางถึงด่างจัด |
| |
| |
อินทรียวัตถุ
(เปอร์เซ็นต์) |
ฟอสฟอรัส
(ส่วนต่อล้านส่วน) |
โพแทสเซียม
(ส่วนต่อล้านส่วน) |
ความเป็นกรดเป็นด่าง
(pH) |
| ดินบน |
7.0 |
6.5 |
354.0 |
7.0-8.5 |
| ดินล่าง |
5.6 |
5.6 |
289.7 |
7.0-8.5 |
*เปอร์เซ็นต์ค่าไนโตรเจน มีค่าเท่ากับ เปอร์เซ็นต์อินทรียวัตถุ x 0.05 |
ความอุดมสมบูรณ์
ตามธรรมชาติ |
ปานกลางถึงสูง |
| การใช้ประโยชน์ |
ปลูกพืชไร่ เช่น ฝ้าย ข้าวโพด
ถั่ว และ ไม้ผลบางชนิด เช่น มะม่วง มะพร้าว และน้อยหน่า
ถ้าในกรณีที่พบชั้นปูนมาร์ลลึกกว่า 25 ซม. |
| ปัญหา |
ดินตื้นถึงชั้นปูนมาร์ลหรือก้อนปูน
ดินแห้งแข็ง ดินเปียกเหนียว ทำให้ไถพรวนยาก ขาดแคลนน้ำ และดินเป็นด่างจัดในกรณีที่พบชั้นปูนมาร์ลลึกกว่า
25 ซม. หากนำมาใช้ปลูกพืชไร่ ปัญหาในการใช้ประโยชน์ที่ดินจะมีน้อย
แต่ถ้าพบชั้นปูนมาร์ลตื้นกว่า 25 ซม.จะมีปัญหาเรื่องการไถพรวน |
| ความเหมาะสมด้านการเกษตร |
| พืช |
ชั้น
ความเหมาะสม |
คำอธิบาย |
| ข้าว |
3d |
ไม่เหมาะสม มีข้อจำกัดเรื่องการระบายน้ำของดิน |
| อ้อยโรงงาน |
1 |
เหมาะสม |
| ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ |
1g |
เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความลึกที่พบก้อนกรวด
35-60 เปอร์เซ็นต์ โดยปริมาตร |
| มันสำปะหลัง |
1g |
เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความลึกที่พบก้อนกรวด
35-60 เปอร์เซ็นต์ โดยปริมาตร |
| สับปะรด |
2k |
ไม่ค่อยเหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความเป็นด่างของดิน |
| ยางพารา |
2k |
ไม่ค่อยเหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความเป็นด่างของดิน |
| ปาล์มน้ำมัน |
2k |
ไม่ค่อยเหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความเป็นด่างของดิน |
| ลำไย |
1g |
เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความลึกที่พบก้อนกรวด
35-60 เปอร์เซ็นต์ โดยปริมาตร |
|
แนวทางการจัดการดิน
เพื่อการเพาะปลูก |
| ปลูกพืชไร่
หรือพืชผัก |
เลือกชนิดพืชที่ชอบดินเป็นด่างมาปลูก
ไถพรวนดินในขณะที่ดินมีความชื้นที่เหมาะสม ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก
1-2 ตัน/ไร่ หรือไถกลบพืชปุ๋ยสด (หว่านเมล็ดถั่วพร้า
8-10 กิโลกรัม/ไร่ เมล็ดถั่วพุ่ม 6-8 กิโลกรัม/ไร่
หรือปอเทือง 4-6 กิโลกรัม/ไร่ ไถกลบระยะออกดอก ปล่อยไว้
1-2 สัปดาห์) ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
ไถพรวนและปลูกพืชขวางความลาดชัน ปลูกพืชหมุนเวียน
ปลูกสลับเป็นแถว ปลูกพืชคลุมดิน ทำคันดินร่วมกับปลูกหญ้าแฝก
พัฒนาแหล่งน้ำและจัดระบบการให้น้ำในแปลงปลูก |
| ปลูกไม้ผล |
ขุดหลุมปลูกขนาด 50x50x50
ซม. หรือถึงชั้นมาร์ล ปรับปรุงหลุมปลูกด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก
15-25 กิโลกรัม/หลุม มีระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ เช่น
ปลูกพืชคลุมดิน วัสดุคลุมดิน ปลูกพืชแซม ทำแนวรั้วหรือทำฐานหญ้าแฝกเฉพาะต้น
มีการพูนโคนด้วยหน้าดิน เมื่อพบว่ามีรากลอย ในช่วงเจริญเติบโต
ก่อนเก็บผลผลิตและภายหลังเก็บผลผลิต ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์น้ำ
ตามชนิดพืชที่ปลูก พัฒนาแหล่งน้ำและจัดระบบการให้น้ำในแปลงปลูก |
|
ความเหมาะสมของดิน
เพื่อใช้ประโยชน์ด้านวิศวกรรม |
| ประเภทการใช้ |
ชั้นความเหมาะสม |
คำอธิบาย |
| วัสดุหน้าดิน |
2s |
เหมาะสมปานกลาง มีข้อจำกัดเรื่องเนื้อดิน |
| แหล่งทรายและกรวด |
4a |
ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน |
| ดินถมหรือดินคันทาง |
3a |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน |
| เส้นทาง แนวถนน |
3a |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน |
| บ่อขุด |
3k |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความซาบซึมน้ำของดิน |
| อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก |
3k |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความซาบซึมน้ำของดิน |
| คั้นกั้นน้ำ |
3a |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน |
| ระบบบ่อเกรอะ |
2k |
เหมาะสมปานกลางมีข้อจำกัดเรื่องความซาบซึมน้ำของดิน |
โรงงานอุตสาหกรรม
ขนาดเล็ก |
3a |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน |
| อาคารต่ำๆ |
3a |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน |
การใช้ยานพาหนะ
ในช่วงฤดูฝน |
3s |
ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องเนื้อดิน |
|
| ปริมาณน้ำที่พืชใช้ประโยชน์ได้
(Available Water Capacity : AWC) |
มีค่าระหว่าง 16.46-20.46
เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก เฉลี่ย 18.36 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก
ภายในความลึก 120 เซนติเมตร จากผิวหน้าดิน
(หมายเหตุ ปริมาณน้ำที่พืชใช้ประโยชน์ได้ หมายถึงผลต่างของความชื้นความจุสนามมีค่าพลังงาน
-33 กิโลพาสคาล และความชื้นที่จุดเหี่ยวถาวรมีค่าพลังงาน
-1,500 กิโลพาสคาล) |