เลือกคำอธิบายหน่วยแผนที่
46
    
กลุ่มชุดดินที่ 46
ชุดดินในกลุ่ม
ชุดดินเชียงคาน (Ch) ชุดดินกบินทร์บุรี (Kb) ชุดดินโป่งตอง (Po) ชุดดินสุรินทร์ (Su)หรือดินคล้ายอื่นๆ ที่มีลักษณะและสมบัติจัดอยู่ในกลุ่มชุดดินนี้
ลักษณะเด่น กลุ่มดินตื้นถึงก้อนกรวด หรือเศษหินปนลูกรังหนามาก ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมาก การระบายน้ำดี ความอุดมสมบูรณ์ต่ำ
สมบัติของดิน เป็นกลุ่มชุดดินที่เกิดจากวัตถุต้นกำเนิดดินพวกตะกอนลำน้ำ หรือจากการสลายตัวผุพังอยู่กับที่ หรือจากการสลายตัวผุพังแล้วถูกเคลื่อนย้ายมาทับถม ของวัสดุเนื้อละเอียดที่มาจากพวกหินตะกอน หรือหินภูเขาไฟ พบบริเวณพื้นที่ดอน ที่มีสภาพพื้นที่เป็นลูกคลื่นจนถึงเนินเขา เป็นดินตื้นมาก มีการระบายน้ำดี เนื้อดินเป็นพวกดินเหนียวปนกรวดหรือปนลูกรัง หรือเศษหินที่มีเหล็กเคลือบ พบภายในความลึก 50 ซม. สีดินเป็นสีน้ำตาล สีเหลืองหรือสีแดง ดินมีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติต่ำ ปฏิกิริยาดินเป็นกรดจัดมากถึงกรดเล็กน้อย
 
  อินทรียวัตถุ
(เปอร์เซ็นต์)		 ฟอสฟอรัส
(ส่วนต่อล้านส่วน)		 โพแทสเซียม
(ส่วนต่อล้านส่วน)		 ความเป็นกรดเป็นด่าง
(pH)
ดินบน 2.0 3.5 73.6 5.5-6.5
ดินล่าง 1.6 3.1 64.6 4.5-5.5

*เปอร์เซ็นต์ค่าไนโตรเจน มีค่าเท่ากับ เปอร์เซ็นต์อินทรียวัตถุ x 0.05
ความอุดมสมบูรณ์
ตามธรรมชาติ		 ต่ำ
การใช้ประโยชน์ ใช้ปลูกพืชไร่บางชนิด เช่น มันสำปะหลัง อ้อย และปอ บางแห่งเป็นทุ่งหญ้าธรรมชาติ และป่าละเมาะ หรือมีการปลูกป่าทดแทน
ปัญหา เป็นดินตื้นถึงชั้นก้อนกรวดหรือเศษหินปนลูกรังหนามาก มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ บริเวณที่มีความลาดชันสูงจะมีปัญหาเกี่ยวกับการชะล้างพังทลายของหน้าดินได้ง่าย
ความเหมาะสมด้านการเกษตร
พืช ชั้น ความเหมาะสม คำอธิบาย
ข้าว 3d ไม่เหมาะสม มีข้อจำกัดเรื่องการระบายน้ำของดิน
อ้อยโรงงาน 1n เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความอุดมสมบูรณ
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1gn เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความลึกที่พบก้อนกรวด 35-60 เปอร์เซ็นต์ โดยปริมาตรและความอุดมสมบูรณ
มันสำปะหลัง 1gn เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความลึกที่พบก้อนกรวด 35-60 เปอร์เซ็นต์ โดยปริมาตรและความอุดมสมบูรณ์
สับปะรด 1n เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความอุดมสมบูรณ์
ยางพารา 1gn เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความลึกที่พบก้อนกรวด 35-60 เปอร์เซ็นต์ โดยปริมาตรและความอุดมสมบูร
ปาล์มน้ำมัน 1n เหมาะสมมีข้อจำกัดความอุดมสมบูรณ์
ลำไย 1gn เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความลึกที่พบก้อนกรวด 35-60 เปอร์เซ็นต์ โดยปริมาตรและความอุดมสมบูรณ์
แนวทางการจัดการดิน
เพื่อการเพาะปลูก

 

ปลูกพืชไร่ หรือพืชผัก

พื้นที่ดินตื้นมากหรือมีก้อนกรวดหรือลูกรังบริเวณหน้าดินมาก ไม่ควรนำมาใช้ประโยชน์ ปล่อยไว้ให้เป็นป่า พื้นที่เลี้ยงสัตว์หรือปลูกไม้ใช้สอยโตเร็ว

เลือกพื้นที่ที่มีหน้าดินหนาและมีสภาพพื้นที่ค่อนข้างราบเรียบ จัดระบบการปลูกพืชหมุนเวียนตลอดทั้งปีและปลูกพืชบำรุงดินร่วมอยู่ด้วย ปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 3-4 ตัน/ไร่ หรือไถกลบพืชปุ๋ยสด (หว่านเมล็ดถั่วพร้า 10-12 กิโลกรัม/ไร่ เมล็ดถั่วพุ่ม 8-10 กิโลกรัม/ไร่ หรือปอเทือง 6-8 กิโลกรัม/ไร่ ไถกลบระยะออกดอก ปล่อยไว้ 1-2 สัปดาห์) ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์น้ำ มีมาตรการอนุรักษ์ดินและน้ำ เช่น การไถพรวนตามแนวระดับ มีวัสดุคลุมดิน ทำแนวรั้วหรือทำฐานหญ้าแฝกเฉพาะต้น พัฒนาแหล่งน้ำและจัดระบบการให้น้ำในแปลงปลูก
ปลูกไม้ผล ขุดหลุมปลูกขนาด 75x75x75 :ซม.ปรับปรุงหลุมปลูกด้วยหน้าดินร่วมกับปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอก 25-50 กิโลกรัม/หลุม มีระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ เช่น การสร้างคันดิน ทำขั้นบันได ปลูกพืชคลุมดิน ทำแนวรั้วหรือทำฐานหญ้าแฝกเฉพาะต้น ในช่วงเจริญเติบโต ก่อนเก็บผลผลิตและภายหลังเก็บผลผลิต ใช้ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกร่วมกับปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ตามชนิดพืชที่ปลูก พัฒนาแหล่งน้ำและจัดระบบการให้น้ำในแปลงปลูก
ความเหมาะสมของดิน
เพื่อใช้ประโยชน์ด้านวิศวกรรม
ประเภทการใช้ ชั้นความเหมาะสม คำอธิบาย
วัสดุหน้าดิน 3g ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องปริมาณเศษหินที่มีขนาดใหญ่กว่าทรายหยาบมาก
แหล่งทรายและกรวด 4a ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน
ดินถมหรือดินคันทาง 1 เหมาะสมดี
เส้นทาง แนวถนน 1 เหมาะสมดี
บ่อขุด 3k ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความซาบซึมน้ำของดิน
อ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 3k ไม่เหมาะสมมีข้อจำกัดเรื่องความซาบซึมน้ำของดิน
คั้นกั้นน้ำ 1 เหมาะสมดี
ระบบบ่อเกรอะ 2k เหมาะสมปานกลางมีข้อจำกัดเรื่องความซาบซึมน้ำของดิน
โรงงานอุตสาหกรรม
ขนาดเล็ก		 2a เหมาะสมปานกลางมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน
อาคารต่ำๆ 2a เหมาะสมปานกลางมีข้อจำกัดเรื่องลักษณะของดินตามการจำแนกดิน
การใช้ยานพาหนะ
ในช่วงฤดูฝน		 1 เหมาะสมดี
ปริมาณน้ำที่พืชใช้ประโยชน์ได้ (Available Water Capacity : AWC) มีค่าระหว่าง 14.06-16.79 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก เฉลี่ย 15.42 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก ภายในความลึก 120 เซนติเมตร จากผิวหน้าดิน
(หมายเหตุ ปริมาณน้ำที่พืชใช้ประโยชน์ได้ หมายถึงผลต่างของความชื้นความจุสนามมีค่าพลังงาน -33 กิโลพาสคาล และความชื้นที่จุดเหี่ยวถาวรมีค่าพลังงาน -1,500 กิโลพาสคาล)